งานนิทานเจ้าหญิงนิทราในแบบที่คุณอาจจะไม่เคยคาดคิดมาก่อน

นิทานก่อนนอนถือเป็นสิ่งที่เด็กๆในยุคปัจจุบันน่าจะเคยพบเจอได้รับฟังมากันแทบทุกคน โดยเฉพาะโลกในยุคนี้ที่นอกจากจะมีนิทานให้อ่านในหนังสือไว้สำหรับคุณหนูอ่านเพื่อเรียนภาษา หรือแม้แต่เอาไว้ให้คุณพ่อคุณแม่เพื่อกล่อมให้เด็กฟังก่อนนอน จนมาถึงในยุคที่นิทานสามารถเปิดหาฟังได้ใน YouTube มันทำให้โลกของนิทานเข้าไปถึงดึกแทบทุกที่ในมุมโลกเจ้าหญิงนิทราในแบบ วอลต์ดิสนีย์
โดยเรื่องราวของเจ้าหญิงนิทราที่ถูกมานำเสนอในรูปแบบภาพยนตร์การ์ตูนของวอลต์ดิสนีย์ที่เรารู้จักกันดีนั่นก็คือ นานมาแล้วมีเจ้าหญิงองค์น้อยที่ได้ถือกำเนิดขึ้นมา ทำให้พระราชาแห่งอาณาจักรนั้นได้ทำการเชิญนางฟ้า และเหล่าขุนนางคนสำคัญมากมายมาร่วมเฉลิมฉลองที่ปราสาท หากแต่อยู่ๆ กลับปรากฏนางฟ้าผู้แสนน่ากลัวคนหนึ่งได้เข้ามาในงานเลี้ยงด้วยความโกรธแค้นที่พระราชาไม่ยอมเชิญมาร่วมงานด้วย จึงทำการสาปเจ้าหญิงน้อยซึ่งยังเป็นทารกอยู่ว่าในอนาคตเมื่อเจ้าหญิงองค์น้อยโตขึ้นเป็นสาวผู้น่ารักสวยงาม เธอจะต้องถูกเข็มปั่นด้ายจิ้มนิ้วซึ่งจะมีผลทำให้เธอตายลงในทันที ซึ่งเมื่อนางฟ้าที่ใจร้าย) ได้จากไปแล้ว ก็สร้างความแตกตื่นให้กับพระราชา พระราชินี และผู้มาร่วมงานเป็นอย่างมาก โชคดีที่ยังมีหนึ่งในนางฟ้าผู้แสนดีที่ยังคงไม่ได้ให้พรกับเจ้าหญิง จึงได้ทำการให้พรเป็นการแก้คำสาปดังกล่าวว่า เมื่อเจ้าหญิงโดนเข็มทิ่มนิ้วแทนที่จะตายสิ้นชีพ จะกลายเป็นหลับเป็นตายไม่รู้ตื่นแทน ยาวนานไปอีก 100 ปี จนกว่าจะมีเจ้าชายผู้เปี่ยมไปด้วยบุญบารมี บุกป่าฝ่าดงอันตรายเข้ามาจุมพิตปลุก ซึ่งในเวลาต่อมาพระราชาพยายามต่อสู้กับคำสาปโดยการมีคำสั่งให้ทำลายเข็มปั่นด้ายทั้งหมดที่มีในดินแดนของตนเอง หากแต่คำสาปของนางฟ้ามีหรือผู้เป็นมนุษย์จะสามารถหลบเลี่ยงได้โดยง่าย ในที่สุดก็ยังคงเหลือเครื่องปั่นได้และมีเข็มปั่นด้ายติดอยู่ 1 ชิ้น ทำให้ในที่สุดเจ้าหญิงก็โดนเข็มปั่นด้ายทิ่มนิ้ว ตามที่ถูกคำสาปเอาไว้ และเจ้าหญิงก็หลับไปไม่ยอมตื่น จากนั้นก็ได้เวลานางฟ้าผู้ใจดีชุดเดิมได้กลับมาเสกให้คนในประสาททั้งหมดหลับไหลตามเจ้าหญิงไป เพื่อรอวันที่จะตื่นมาพร้อมเจ้าหญิงแถมด้วยการเสกต้นไม้หนามแหลมคมต่างๆ เข้ามาป้องกันขัดขวางคนไม่ให้เข้ามาใกล้ประสาท (อ้าว แล้วราษฎรในอาณาจักรจะทำอย่างไรใครจะปกครองกันล่ะ) แล้ว 100 ปี ผ่านไป ก็มีเจ้าชายผู้เปี่ยมด้วยบารมีได้บุกป่าฝ่าดงเข้าไปมอบจุมพิตให้กับเจ้าหญิงแสนสวยให้ตื่นขึ้น และคนในปราสาทก็ฟื้นตื่นกลับคืนมา
นิทานในเวอร์ชั่นต้นฉบับ
ภาพยนตร์การ์ตูนเรื่องนี้ของวอลดิสนีย์ ถือว่าได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ได้รับความนิยมอย่างสูงเป็นเหตุผลที่ทำให้เจ้าหญิงออโรร่า หรือ เจ้าหญิงนิทรา กลายมาเป็นสุดยอดเจ้าหญิงประจำสวนสนุกของดิสนีย์แลนด์มาจนถึงปัจจุบัน หากแต่ประเดี๋ยวก่อน ใครจะรู้ว่าในความเป็นจริงแล้วเรื่องราวของเจ้าหญิงนิทราที่เราได้รับทราบมาตลอดนั้น หาใช่เรื่องราวที่ถูกต้องตามต้นฉบับที่แท้จริงไม่ หากแต่มันเป็นเรื่องราวที่ถูกดัดแปลงเขียนขึ้นมาใหม่จากปลายปากกาของพี่น้องตระกูลกริมม์ ซึ่งวอลดิสนีย์ได้นำมาดัดแปลงอีกครั้งเพื่อให้เรื่องราวมีความสนุกสนานใสๆ น่าอ่านเท่านั้นเอง แล้วต้นฉบับจริงๆ ของเจ้าหญิงนิทรามันเป็นอย่างไรกันล่ะ นิทาน หรือวรรณกรรมเรื่องเจ้าหญิงนิทราในเวอร์ชั่นเริ่มแรกนั้น ว่ากันว่ามีการเขียนไว้โดย Giambattista Basile นักเขียนคนหนึ่งซึ่งเป็นชาวอิตาลี ได้แต่งไว้ว่าหลังจากที่เจ้าหญิงออโรร่าโดนเข็มทิ่มเข้าไปที่นิ้วทุกคนในอาณาจักรก็คิดว่าตายลงแล้ว หากแต่ร่างของนางที่หลับอยู่นั้นถูกนำไปเก็บรักษาเอาไว้อยู่ในบ้านหลังหนึ่งกลางป่าเขา โดยในเวอร์ชั่นนี้นั้นคนในปราสาทไม่ได้ถูกนางฟ้าเสกมนต์ให้หลับใหลตามเธอไปด้วยแต่อย่างใด มาวันหนึ่งพระราชาผู้เป็นพ่อได้แวะไปเยี่ยมศพของพระธิดาหากแต่กลับพบเรื่องราวปาฏิหาริย์ว่า ร่างกายที่หลับไหลของเจ้าหญิงออโรร่านั้นเติบโตขึ้นจากสาวน้อยกลายเป็นสาวแรกแย้ม ทั้งที่ยังนอนหลับไม่ได้สติอยู่ จนในที่สุดก็หน้ามืดตามัวลงมือปลุกปล้ำขืนใจร่างของเจ้าหญิงที่หลับสนิทอยู่ไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้
เท่านั้นยังไม่พอไม่ใช่เพียงครั้งเดียว หากแต่ราชาพระองค์นี้ด้วยความหลงใหลในเรือนร่างที่สวยสดงดงาม ก็ได้หาโอกาสแวะเวียนไปมีสัมพันธ์กับร่างของเจ้าหญิงซึ่งหลับอยู่บ่อยครั้งโดยไม่ให้ใครรู้ แถมร่างของเจ้าหญิงองค์ดังกล่าวก็กลับตั้งครรภ์ขึ้นมาได้ซะอย่างนั้น และคลอดลูกออกมาทั้งที่หลับอยู่กลับมาเป็นลูกแฝด ซึ่งหนึ่งในลูกแฝดของเจ้าหญิงได้คลานไปดูดนิ้วมือตรงบริเวณที่เธอถูกเข็มทิ่มอยู่ด้วยความหิว หากแต่มีผลทำให้เข็มที่ทิ่มหลุดออกมา และเจ้าหญิงตื่นขึ้นมาจากนิทราอันยาวนาน (ถ้าถอนคำสาปได้ขนาดนี้ทำไมไม่หาหมอ หรือใครสักคนมาดึงเข็มออกจากนิ้วไปซะตั้งแต่ทีแรกเลยล่ะ) ในที่สุดราชินีผู้เป็นแม่ของเจ้าหญิงออโรร่าก็จับได้ แทนที่จะรู้สึกสงสารในชะตากรรมของบุตรสาว เธอกลับโกรธแค้น และรับสั่งให้ทหารไปจับลูกแฝดของเจ้าหญิงมาจากนั้นมาทำเป็นอาหารให้พระราชากินมันเสียเลย หากแต่คนที่มีจิตสำนึก และคุณธรรมจริงๆกลับกลายเป็นพ่อครัวที่ตัดสินใจแอบช่วยเหลือเด็กๆ ไว้แล้วไปหาเนื้อแกะมาทำอาหารแทน
ยังไม่พอราชินีผู้เป็นแม่ก็ยังสั่งให้คนจับเจ้าหญิงออโรร่าที่เพิ่งฟื้นขึ้นมา เอามาขึ้นศาลหาว่ากระทำความผิดแล้วสั่งคนจุดไฟขึ้นเตรียมให้เจ้าหญิงโยนลงกองไฟ ซึ่งเจ้าหญิงก็ค่ำครวญขออนุญาตถอดเสื้อผ้าออกก่อนเดินเข้ากองไฟซื้อเวลา พร้อมกับตะโกนร้องคร่ำครวญครางลั่นหาคนมาช่วย จนในที่สุดพระราชาผู้เป็นพ่อที่ผันตัวเองมาเป็นพระเอกแทนเจ้าชายที่ไหนสักองค์ก็ได้กลับมาทัน โดยสั่งให้คนจับราชินีกับพ่อครัวมาเผา หากแต่เพราะพ่อครัวได้สารภาพว่าตนได้ช่วยเด็กๆ เอาไว้ ทำให้ผู้ถูกลงโทษมีเพียงแค่ราชินีเพียงองค์เดียว และแล้วพระราชาก็ได้แต่งงานกับเจ้าหญิงออโรร่าและมีความสุขสืบไป (เอาจริงดิ)
ด้วยความที่นิทานเรื่องนี้เกิดขึ้นในยุคช่วงยุคเก่า และยุคกลางซึ่งอาจจะอยู่ในช่วงยุคมืดมีแต่ผู้ใช้อำนาจบาตรใหญ่จับคนไปเผาทั้งเป็นโดยใส่ร้ายว่าเป็นแม่มดก็เป็นได้ทำให้นิทานต้นฉบับของเรื่องนี้จริงๆ ถึงได้ออกมามืดมนเสียขนาดนั้น โชคยังดีที่เมื่อทำการเปลี่ยนแปลงแก้ไขใหม่กลายมาเป็นนิทานก่อนนอนสดใสน่ารักให้เด็กๆ ได้รับฟัง เพราะแบบนี้เองเราถึงได้มีเจ้าหญิงนิทราออโรร่าซึ่งเป็นเจ้าหญิงของ วอลต์ดิสนีย์ ซึ่งเด็กๆ ล้วนรักในเรื่องราวของเธอ